พวกฮิปปี้ไม่สนใจการเมือง ซึ่งตนถือว่าเป็นเรื่องไม่จริงใจต่อกันและกัน ไม่ชอบมีเงินตราไว้เกินกว่าเพื่อยังชีพเท่าที่จำเป็นไม่ก้าวร้าวในรูปใด ๆ ก็ตาม ไม่ว่าด้วยกำลังหรือวาจา เรียกร้องแต่ความรัก ความซื่อสัตย์ เปิดเผย และความเป็นอิสระ ซึ่งตนเห็นว่าหาไม่ได้จากสังคม คนพวกนี้ต้องการจะมีชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ เหมือนอาดัมกับอีฟ มนุษย์คู่แรกของโลก
ยาเสพย์ติด ความรักเสรี ดนตรีร็อก เป็นสิ่งขาดไม่ได้ของพวกฮิปปี้ ใน ค.ศ. ๑๙๖๙ สถาบันสุขภาพจิตสหรัฐฯ รายงานว่า มีคนอเมริกันกว่าแสนคนที่ติดยาเสพย์ติตอย่างร้ายแรงและ ๘ ถึง ๑๒ ล้านคน ได้เคยลองสูบกัญชามาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ภาพของฮิปปี้หนุ่มสาววัยฉกรรจ์ที่ติดยาเสพย์ติดอย่างร้ายแรงจนซูบผอมและมีอาการเศร้าซึมเพราะพิษยา ก่อให้เกิดความเศร้าสลดใจแก่ประชาชนที่ได้พบเห็น หนุ่มสาวเหล่านั้นไม่น้อยจบชีวิตลงด้วยความตาย หรือไม่ก็คุกตะราง
เมื่อใกล้จะสิ้นทศวรรษที่ ๖๐ สภาวะของพวกบุปผาชนยิ่งเลวร้ายลงกลายเป็น “คนข้างถนน” (street people) ที่สกปรกโสมม ภาคภูมิใจกับการลักเล็กขโมยน้อยเพื่อยังชีพร่อนเร่พเนจรทั่วไป บ้างก็จับกลุ่มมั่วโลกีย์กันเป็นกลุ่ม ๆ และก่อความรุนแรงที่ท้าทายกฎหมาย อาทิ พวกแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่ขับฉวัดเฉวียนเสี่ยงความตาย และส่งเสียงอึกทึกครึกโครม เช่น แก๊งเฮลส์ แองเจล (Hell's Angel) ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย และพวกลักลอบค้ายาเสพย์ติด ใน ค.ศ. ๑๙๖๙ ชารอน เทต (Sharon Tate) ดาราภาพยนตร์ผู้มีชื่อเสียงซึ่งกำลังตั้งครรภ์แก่และคนอื่น ๆ อีกหลายคนถูกสังหารอย่างทารุณ โดยหญิง ๓ คน ซึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัวฮิปปี้ของชาร์ลส์ แมนสัน (Charles Manson) ผู้บงการโดยมิได้มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน คดีฆาตกรรมที่โหดร้ายนี้อื้อฉาวไปทั่วโลก ทำให้พวกฮิปปี้ได้รับคำประณามว่า “ต่ำทราม ยังไม่โต นึกถึงแต่ตัวเองและไร้ความรับผิดชอบอย่างเห็นแก่ตัว” เมื่อย่างเข้ากลางทศวรรษที่ ๗๐ สถานการณ์ภายในประเทศค่อยคลายความตึงเครียดลงเนื่องจากสงครามเวียดนามยุติลงแล้ว การต่อสู้เรื่องสิทธิมนุษยชนก็อ่อนกำลังลง ชุมชนของพวกฮิปปี้ก็พลอยอันตรธานไปด้วย ต่างแยกย้ายกระจัดกระจายกันไป
“ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี”
วันนี้เรามีเพลงมาฝากเพื่อนๆชาวบล็อกเกอร์ด้วยนะค่ะ
Imagine ..งานจาก..John lennon
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น