วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สวัสดีเพื่อนๆชาวฮิปปี้ทุกคนนะค่ะ....
          เจอกัันอีกแล้ว วันนี้เราจะมาแนะนำแฟชั่นเจ๋งๆกันนะค่ะ
                      วันนี้เทรนฮิปปี้ในเมืงไทยเราอาจจะมีน้อยลง ไม่เป็นที่นิยมกันมากนัก
                                  แต่ว่ายังมีให้เห็นบ้างนะค่ะ ยังหลงเหลืออยู่บ้าง












          พวกฮิปปี้ไม่สนใจการเมือง  ซึ่งตนถือว่าเป็นเรื่องไม่จริงใจต่อกันและกัน  ไม่ชอบมีเงินตราไว้เกินกว่าเพื่อยังชีพเท่าที่จำเป็นไม่ก้าวร้าวในรูปใด ๆ ก็ตาม ไม่ว่าด้วยกำลังหรือวาจา เรียกร้องแต่ความรัก ความซื่อสัตย์  เปิดเผย  และความเป็นอิสระ  ซึ่งตนเห็นว่าหาไม่ได้จากสังคม  คนพวกนี้ต้องการจะมีชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ  เหมือนอาดัมกับอีฟ มนุษย์คู่แรกของโลก
                                                     
     ยาเสพย์ติด  ความรักเสรี  ดนตรีร็อก  เป็นสิ่งขาดไม่ได้ของพวกฮิปปี้ ใน ค.ศ. ๑๙๖๙ สถาบันสุขภาพจิตสหรัฐฯ รายงานว่า  มีคนอเมริกันกว่าแสนคนที่ติดยาเสพย์ติตอย่างร้ายแรงและ ๘ ถึง ๑๒ ล้านคน  ได้เคยลองสูบกัญชามาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง  ภาพของฮิปปี้หนุ่มสาววัยฉกรรจ์ที่ติดยาเสพย์ติดอย่างร้ายแรงจนซูบผอมและมีอาการเศร้าซึมเพราะพิษยา ก่อให้เกิดความเศร้าสลดใจแก่ประชาชนที่ได้พบเห็น  หนุ่มสาวเหล่านั้นไม่น้อยจบชีวิตลงด้วยความตาย หรือไม่ก็คุกตะราง









     เมื่อใกล้จะสิ้นทศวรรษที่ ๖๐ สภาวะของพวกบุปผาชนยิ่งเลวร้ายลงกลายเป็น “คนข้างถนน” (street people)  ที่สกปรกโสมม  ภาคภูมิใจกับการลักเล็กขโมยน้อยเพื่อยังชีพร่อนเร่พเนจรทั่วไป บ้างก็จับกลุ่มมั่วโลกีย์กันเป็นกลุ่ม ๆ และก่อความรุนแรงที่ท้าทายกฎหมาย อาทิ พวกแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่ขับฉวัดเฉวียนเสี่ยงความตาย และส่งเสียงอึกทึกครึกโครม เช่น  แก๊งเฮลส์  แองเจล (Hell's  Angel)  ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย  และพวกลักลอบค้ายาเสพย์ติด ใน ค.ศ. ๑๙๖๙  ชารอน เทต  (Sharon Tate)  ดาราภาพยนตร์ผู้มีชื่อเสียงซึ่งกำลังตั้งครรภ์แก่และคนอื่น  ๆ  อีกหลายคนถูกสังหารอย่างทารุณ  โดยหญิง  ๓  คน  ซึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัวฮิปปี้ของชาร์ลส์  แมนสัน  (Charles  Manson)  ผู้บงการโดยมิได้มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน  คดีฆาตกรรมที่โหดร้ายนี้อื้อฉาวไปทั่วโลก  ทำให้พวกฮิปปี้ได้รับคำประณามว่า “ต่ำทราม ยังไม่โต นึกถึงแต่ตัวเองและไร้ความรับผิดชอบอย่างเห็นแก่ตัว” เมื่อย่างเข้ากลางทศวรรษที่ ๗๐ สถานการณ์ภายในประเทศค่อยคลายความตึงเครียดลงเนื่องจากสงครามเวียดนามยุติลงแล้ว  การต่อสู้เรื่องสิทธิมนุษยชนก็อ่อนกำลังลง  ชุมชนของพวกฮิปปี้ก็พลอยอันตรธานไปด้วย  ต่างแยกย้ายกระจัดกระจายกันไป

“ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี” 

  วันนี้เรามีเพลงมาฝากเพื่อนๆชาวบล็อกเกอร์ด้วยนะค่ะ
                                                    Imagine ..งานจาก..John lennon



        แม้จะเกิดทันยุคฮิปปี้ แต่ก็ยังเด็กอยู่มากจนจำอะไรเกี่ยวกับฮิปปี้ไม่ได้เลย  เรื่องราวของฮิปปี้ดังต่อไปนี้จึงได้มาจากหนังสือ “สหรัฐอเมริกาในโลกปัจจุบัน (ค.ศ. ๑๙๔๕-๑๙๘๐)”  โดย ศาสตราจารย์สมร  นิติทัณฑ์ประภาศ
     ในราว ค.ศ. ๑๙๖๗ คนหนุ่มสาวอเมริกันที่เบื่อระอาสังคมชนชั้นกลางและระดับสูงกว่านั้น  เพราะไม่อาจปฏิรูปสังคมได้ดังใจนึก  และไม่อาจจะเข้าใจถึงค่านิยมของพ่อแม่ที่เน้นความสำคัญของเงินตรา  สถานภาพทางสังคมและความสำคัญของการทำงานหนักในชีวิต เพราะตนเติบโตมาโดยไม่ต้องผ่านการต่อสู้ชีวิตมาอย่างหนักเช่นพ่อแม่ คนเหล่านั้นต่างพากันปลีกตัวออกนอกสังคม  หันไปเจริญรอยตามพวกบีตนิกแห่งทศวรรษที่ ๕๐ แต่ดำรงชีวิตอยู่อย่างน่าสมเพชกว่า หนุ่มสาวเหล่านี้ได้ชื่อว่าพวก  “ฮิปปี้”
   







 ฮิปปี้โดยทั่วไปด้อยการศึกษา แต่งกายสกปรกซอมซ่อรุงรังไว้หนวดเครา ผมยาว ห้อยลูกประคำ สวมรองเท้าแตะ ไม่สนใจจะผูกเนกไทหรือสวมถุงเท้า นิยมสูบกัญชาและยาเสพย์ติดอื่น ๆ ชิงชังการสะสมความมั่งคั่ง  บางคนทำงานหนักที่ไม่ต้องใช้สมองเท่าใดนัก  และรายได้ต่ำมาก บางคนก็ขอเงินจากทางบ้าน  และมีไม่น้อยทำตนเป็นขอทาน


    
 พวกฮิปปี้ส่วนใหญ่พากันไปมั่วสุมกันที่ตำบลไฮต์แอชเบอรี  (Haight-Ashbury) ในนครซานฟรานซิสโก และที่อีสต์วิลเลจ(East Village) ในนครนิวยอร์ก  พวกฮิปปี้เรียกตนเองว่า "บุปผาดรุณ”  (flower children) หรือ “บุปผาชน” (flower people) พอใจที่จะยื่นดอกไม้ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอัยการที่นำตนขึ้นฟ้องร้องต่อศาลมากกว่าจะใช้วิธีประท้วงอย่างรุนแรงไม่สนใจต่อขนบธรรมเนียมประเพณีใด ๆ ปล่อยตนตามสบายอยู่อย่างสงบ  บางคนก็หันไปสนใจศาสนาที่แตกต่างไปจากที่ตนเองและครอบครัวเคยนับถือ เช่น ศาสนาและนิกายในตะวันออก  อาทิ  ศาสนาฮินดู ลัทธิขงจื๊อ  นิกายเซน  ลัทธิเต๋าทั้งนี้เพื่อไว้ปลอบประโลมใจและเป็นประสบการณ์ในชีวิตไปด้วยบ้างก็หมกมุ่นอยู่กับไสยศาสตร์และโหราศาสตร์  บ้างก็จับกลุ่มกันอยู่แบบคอมมูน โดยกินอยู่ใช้สอยร่วมกัน  แบ่งความรับผิดชอบ  ทรัพย์สมบัติและความรักให้ทั่วถึงกัน  ภายในคอมมูนมีการช่วยกันทำสวนครัว  ออกไปทำงานหาเงินนอกบ้านมาใช้ร่วมกัน แต่เมื่อเศรษฐกิจฝืดเคืองจนคอมมูนต้องสลายตัวไป  คนพวกนี้ก็กระจัดกระจายไปทั่ว  บ้างก็กลับไปหาครอบครัว  บ้างก็หางานทำ  บ้างก็กลับไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย บ้างก็ตุหรัดตุเหร่ไปในต่างแดน

วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สวัสดีชาวบล็อกเกอร์นะค่ะ วันนี้เรามีทริคเล็กๆมาฝากกัน  ว่าทำไงเราถึงจะรู้ว่าลูกเรา หรือพี่น้องเรามีสัญญาณที่จะเป็นฮิปปี้  มีทั้งหมด 10 ข้อด้วยกันนะค่ะ  เราไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง...


   
 Jacqueline Himelstein เคยเขียนบทความ  10 ข้อ สัญญานที่จะบอก จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกมีแนวโน้มว่าจะเป็นฮิบปี้ไว้ดังนี้


1.       มีแนวโน้มที่จะออกเดทกับคนต่างเชื้อชาติศาสนา
2.       จู่ๆ ก็มีความสนใจในลัทธิแปลกๆ
3.       ไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่งกับใครได้
4.       ชอบพูดจาแฝงปรัชญา แต่ไม่ตรงประเด็นอะไรเลย
5.       สนใจเรื่องเงินพอสมควร แต่ไม่สนใจที่จะทำงานเพื่อจะได้มันมา
6.       สนใจเรื่องศิลปะและบทกวีถึงขั้นสติแตก
7.       ชอบถากถางเยาะเย้ยสถาับันรัฐบาลทุกรูปแบบ
8.       ชอบความถูกต้อง แต่ไม่รับว่าตัวเองผิด
9.       ขาดเรียนมากขึ้น
10.   ชอบครอบงำคนอื่น เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง